วันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557

Équipe de France de football


L'équipe de France de football, créée en 1904, est l'équipe nationale qui représente la France en football masculin. Elle est constituée par une sélection de joueurs français dirigée sous l'égide de la Fédération française de football (FFF).
Avec comme meilleur résultat sa troisième place à l'issue de la Coupe du monde 1958, le palmarès de l'équipe de France reste vierge jusqu'aux années 1980. Victorieuse à domicile du championnat d'Europe des nationsen 1984, elle remporte le titre olympique à Los Angeles la même année et la Coupe intercontinentale des nations en 1985. L'équipe atteint son sommet à la fin du xxe siècle. Pays hôte de la Coupe de monde 1998, la France gagne la compétition en battant le Brésil en finale (3-0) le 12 juillet 1998 au Stade de France. Avec une formation à l'ossature identique, elle remporte dans la foulée l'Euro 2000 grâce à sa victoire sur l'Italie en finale (2-1, but en or), le 2 juillet 2000 à Rotterdam, premier doublé Mondial-Euro réalisé dans ce sensNote 1. Les Bleus s'adjugent encore deux coupes des Confédérations en 2001 et 2003. Ils occupent la 1re place du classement mondial de la FIFA de mai 2001 à juin 2002. Enfin, ils atteignent la finalede la Coupe du monde 2006 en Allemagne, qu'ils perdent aux tirs au butface à l'Italie. L'équipe de France traverse ensuite une période plus difficile : éliminations au premier tour et sans victoire à l'Euro 2008 et auMondial 2010 avec Raymond Domenech comme sélectionneur, puis quart de finale à l'Euro 2012 sous la baguette de Laurent Blanc qui laisse sa place à Didier Deschamps après cette compétition. Avec ce dernier, lesBleus se qualifient pour leur quatorzième phase finale de Coupe du Monde, au Brésil.
La France est la première sélection à avoir remporté toutes les compétitions internationales : Coupe du monde (1998), Jeux olympiques(1984), coupe des Confédérations (2001, 2003) et son championnat continental (1984, 2000).
Depuis 1904, l'équipe de France a été marquée par plusieurs générations de footballeurs talentueux. Celles-ci ont obtenu leurs meilleurs résultats emmenées par les joueurs emblématiques qu'ont été Raymond Kopa de 1952 à 1962, l'actuel président de l'UEFA Michel Platini de 1976 à 1987 etZinédine Zidane entre 1994 et 2006. Par ailleurs, Didier Deschamps a été le capitaine des Bleus lors des victoires à la Coupe du monde 1998 et à l'Euro 2000. Il occupe depuis 2012 le poste de sélectionneur.
Le coq gaulois est le symbole de l'équipe et les couleurs bleu, blanc et rouge sont celles du pays. Le maillot de l'équipe de France arbore une étoile au-dessus du coq depuis sa victoire en Coupe du monde 1998. Comme c'est le cas pour toutes les équipes sportives hexagonales, les joueurs du onze de France sont appelés les Bleus.

วันเสาร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2557

วีนัสเทพีแห่งความงาม



วีนัสเทพีแห่งความงาม

    พอเอ่ยชื่อวีนัส (Venus) ใคร ๆ ก็รู้ว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความงาม แต่วีนัสตัวจริงนั้น เป็นรูปปั้นโบราณ ที่โบโตนี่ ชาวนาฝรั่งเศสคนหนึ่ง พบที่หน้าวิหาร ในเกาะมิโด ดินแนของตุรกี  เมื่อปี ค.ศ. 1820 (พ.ศ. 2363) เพราะความงาม อันประหลาดของรูปปั้นวีนัสนี้เอง ทำให้เกิดการแย่งชิงกันขึ้น ระหว่างกองทหารฝรั่งเศสและตุรกี และผลจากการยื้อแย่งนั้น ทำให้วีนัสต้องหักชำรุดทั้งแขนและขาบางส่วน แต่กระนั้น ก็ยังไม่หมดความงาม  ดูเหมือนยิ่งทำให้มีความงามยิ่งขึ้นไปอีกด้วยซ้ำ เวลานี้ วีนัสแห่งมิโด อยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งฝรั่งเศส
     รูปปั้นวีนัส เป็นรูปสลักด้วยหินอ่อนสีขาวนวล เปลือยกายให้เห็นความงามทุกส่วน และกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเรือนร่างที่งดงามที่สุด จนยากที่ใคร ๆ จะปั้นให้เหมือนได้ และจนกระทั่งบัดนี้ ยังไ่ม่มีใครทราบเลยว่า จิตรกรคนใด ที่ปั้นวีนัสได้งามอย่างประหลาดเช่นนี้



รูปปั้นวีนัส

วันพุธที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2557

Fromage

Fromage ชีส ของชาวฝรั่งเศสมีหลายประเภท บางอย่างก็มีกลิ่นเหม็นมากๆ บางแบบก็ไม่มีกลิ่นเลย และอร่อยมาก
ชาวฝรั่งเศสนิยม และถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญหลังอาหารเลยก็ว่าได้ ชาวฝรั่งเศสจะรับประทาน ชีส ก่อนจบมื้ออาหารด้วยของหวาน Dessert นั่นเอง


 
Beaufort Cheese

 
Brie Cheese

Epoisses Cheese


Cow's milk cheese
Chabichou du Poitou Cheese

Chevre Goat Cheese

Roquefort Cheese
Blue, cow's milk cheese
Goat's milk cheese
Ewe's milk cheese

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฝรั่งเศส

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฝรั่งเศส

1. ประเทศฝรั่งเศส หรือชื่อเต็มๆคือ สาธารณรัฐฝรั่งเศส (République Française)

2. ใช้ระบบการปกครองแบบกึ่งประธานาธิบดี โดยประธานาธิบดีเป็นผู้นำของรัฐ ส่วนรัฐบาลจะนำโดยนายกรัฐมนตรี ซึ่งแต่งตั้งโดยประธานาธิบดีอีกทีหนึ่ง

3. มีเมืองหลวง และเมืองที่ใหญ่ที่สุดคือ ปารีส ซึ่งเป็นเมืองที่มีการตั้งถิ่นฐานนานกว่า 4,200 ปีมาแล้ว
4. ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการ

5. มีพื้นที่ประเทศทั้งหมดประมาณ 600,000 ตารางกิโลเมตร ไม่ต่างจากเมืองไทยมากนัก

6. และก็มีประชากรพอๆกับเมืองไทย คือประมาณ 65 ล้านคน

7. มีพรมแดนเชื่อมต่อกับเพื่อนบ้านในยุโรปหลายชาติ ได้แก่ เบลเยี่ยม ลักเซมเบิร์ก เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี สเปน อันดอร่า โมนาโก และทางทะเลก็ใกล้กับอังกฤษ

8. เป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยว ในปี 2010 มีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากที่สุดในโลก 76.8 ล้านคน

9. ใช้สกุลเงินยูโรในการซื้อขายแลกเปลี่ยน

10. รหัสโทรศัพท์ของประเทศนี้คือ +33 ขณะที่ชื่อเว็บไซต์ของฝรั่งเศสจะลงท้ายด้วย .fr

11. คนฝรั่งเศสผลิตชีสมากกว่า 400 รสชาติ (และมากกว่านี้ด้วย) มีให้ทานกันนับไม่ถ้วนเลยล่ะ

12. และชาวฝรั่งเศสก็ชอบดื่มไวน์ โดยเฉลี่ยแล้วจะดื่มประมาณคนละ 70 ขวดต่อปี


study-in-france


ที่มา  http://pamprannok.blogspot.com/2013/08/blog-post.html

วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

ความเป็นมา "ธงชาติของประเทศฝรั่งเศส"

ความเป็นมา "ธงชาติของประเทศฝรั่งเศส"


Drapeau de la france




ธงชาติฝรั่งเศสถือว่าเป็นธงต้นแบบที่หลายๆ ประเทศนำมาดัดแปลงเป็นธงชาติของตนเอง รวมทั้งธงชาติไทยด้วย ลักษณะของธงเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า กว้าง 2 ส่วน ยาว 3 ส่วน ประกอบด้วยริ้วธง 3 สี คือ สีน้ำเงิน สีขาว และสีแดง เรียงกันตามแนวตั้ง แต่ละริ้วมีความกว้างเท่ากัน สำหรับธงค้าขายและธงรัฐนาวีฝรั่งเศสนั้นคล้ายกับธงชาติ แต่สัดส่วนความกว้างของริ้วธงแต่ละสีจะเป็น 30 : 33 : 37

ธงนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ประจำชาติฝรั่งเศส ตามมาตราที่ 2 แห่งรัฐธรรมนูญสาธารณรัฐฝรั่งเศส พ.ศ. 2501 ส่วนสีธงชาติแบบมาตรฐานนั้น กำหนดขึ้นในสมัยที่นายวาเลรี ยิสการ์ด เดส์แตง เป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศส แต่เดิมธงนี้มีที่มาจากธงสีแดงและสีน้ำเงิน ซึ่งเป็นสีธงประจำกรุงปารีส และธง
สีขาว ซึ่งใช้เป็นธงประจำราชวงศ์ฝรั่งเศส และใช้เป็นธงราชนาวีในยุคกลาง มีความหมายถึงความบริสุทธิ์ สถาบันกษัตริย์ฝรั่งเศส และยังหมายถึงประเทศฝรั่งเศสด้วย เมื่อเกิดการปฏิวัติฝรั่งเศส ในปี
พ.ศ. 2332 ธงสามสี แดง ขาว และน้ำเงิน ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติที่นิยมแพร่หลายโดยทั่วไป แต่รัฐบาลปฏิวัติฝรั่งเศส ได้รับรองธงนี้ให้ใช้เป็นธงชาติจริง เมื่อปี พ.ศ. 2337 ปัจจุบัน ธงชาติฝรั่งเศส จึงมีความหมายของธงคือ " เสรีภาพ ความเสมอภาค และภราดรภาพ 

วันอาทิตย์ที่ 12 มกราคม พ.ศ. 2557

กิจกรรมการท่องเที่ยวในฝรั่งเศส

กิจกรรมการท่องเที่ยวในฝรั่งเศส


ศิลปะ วัฒนธรรม

พิพิธภัณฑ์  เป็นแหล่งรวบรวมศิลปวัฒนธรรม ซึ่งฝรั่งเศสมีให้เลือกอย่างมากมาย อาทิเช่น ปราสาท อนุสรณ์สถานที่ซึ่งเกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆ ในประวัติศาสตร์ยังคงได้รับการอนุรักษ์ ดูแลรักษาไว้เป็นอย่างดี แม้ว่ากาลเวลาจะได้ผ่านพ้นไปนับพันปี เช่น ภาพโมนาลิซา รูปปั้นวีนัส ในพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ พระราชวังแวร์ซาย ซึ่งเจ้าพระยาโกษาปาน ราชฑูตไทยสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงไปเจริญสัมพันธไมตรี หอไอเฟลสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศส ประตูชัยที่เกิดเหตุการณ์สำคัญ ๆในประวัติศาสตร์ ถนนชองป์-เซลิเซ ย่านการค้าสุดหรู Place de la Révolution ที่ซึ่งกษัตริย์หลุยส์ที่ 16 และพระนาง Marie-Antoinette Danton และ Robespierre ถูกกิโยติน ฯลฯ
งานเทศกาล  ซึ่งมีความหลากหลาย และเป็นกิจกรรมที่ชาวฝรั่งเศสสนใจ เข้าร่วมในงานมากมายอย่างคาดไม่ถึง บางแห่งเป็นงานเทศกาลที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น เทศกาลภาพยนตร์เมืองคาน งานเทศกาลของเมืองนีซ ฯลฯ นับเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดและมีคุณค่าเกินกว่าที่จะมองข้าม
การเที่ยวชมเมืองสำคัญ ๆ  ฝรั่งเศสมีเมืองใหญ่ที่มีประชากรเกิน 100,000 คน รวม 36 เมือง ซึ่งแต่ละเมืองมีเอกลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมของตนเอง แต่ละแห่งมีประวัติความเป็นมาที่สืบเนื่องมาช้านาน เหตุการณ์สำคัญในอดีตหลายประการเกิดขึ้นในแต่ละแห่ง เมืองต่าง ๆเหล่านี้พร้อมที่จะให้คุณได้สำรวจ ท่องเที่ยวโดยจัดการบริการที่เพียบพร้อมไว้บริการคุณได้ทุกเมื่อ

กิจกรรมทั่วไป


สถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศสภูเขา ฝรั่งเศสมีพื้นที่ที่เป็นภูเขาถึง 1 ใน 5 ส่วนของพื้นที่ทั้งหมดครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 124,016 ตารางกิโลเมตร ความสูงตั้งแต่ 500 เมตร จนถึง 4,807 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แบ่งเป็น 6 เทือกเขาสำคัญ ในพื้นที่ 46 จังหวัด ได้แก่ เทือกเขา Northern Alpes, Pyrénées, Massif Central, Jura, Vosges
สถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศสฝรั่งเศสมีพื้นที่เล่นสกีมากที่สุดประมาณ 30% ของพื้นที่เล่นสกีทั่วโลก และกว่า 6,000 แห่งที่ปรับปรุงพื้นผิวและเส้นทางสกีไว้เป็นอย่างดีเหมาะกับผู้เล่นทุกระดับ ความลาดชันหลายระดับจนถึง 2,200 เมตร พร้อมด้วยสถานีขนถ่ายและลิฟต์มากกว่า 4,000 แห่ง อุปกรณ์ปรับแต่งหิมะตามเส้นทางสกีซึ่งรวมความยาวกว่า 13,000 กิโลเมตร และ Downhil Skiing Sites กว่า 400 แห่ง
สถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศสอุปกรณ์การเล่นมีบริการหลายระดับตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับบนพื้นโล่ง ณ ความสูงระดับต่ำหรือสูงมาก หมู่บ้านสกี หรือแบบนำสมัยล่าสุด นอกจากนี้ยังมีบริการที่พักตั้งแต่โรมแรมระดับหรูจนถึงบ้านพักเยาวชน
สวนสนุก  มีให้เลือกมากมายและหลากหลายรูปแบบ ดังตัวอย่างสำคัญ ๆ เช่น
  • Aquaboulevard เป็นสวนน้ำใจกลางปารีส พื้นที่กว่า 7,000 ตารางเมตร
  • Châteaux de Thoiry ที่อยู่ของ Komodo Dragon ซึ่งสามารถเที่ยวชมและศึกษาธรรมชาติที่ได้รับการตกแต่งไว้เป็นอย่างดี
  • Disneyland Paris แบ่งพื้นที่สวนสนุกออกเป็น 2 ส่วน โรงแรม 7 แห่ง สนามกอล์ฟ 27 หลุม พร้อมสวนสนุกและเครื่องเล่นนานาชนิด
  • Futuroscope สวนสนุกโรงหนัง 3 มิติ รวบรวมเทคนิคการถ่ายทำหลายรูปแบบ พร้อมการแสดงกว่า 20 แบบ และรวบรวมสถาปัตยกรรมล้ำยุค
  • Parc Astérix สวนสนุกที่ถ่ายทอดจินตนาการมาจากนิทานฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงสืบเนื่องประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุค Gaule จนถึงศตวรรษที่ 20 เหมาะสำหรับการพักผ่อนในกลุ่มครอบครัวและกลุ่มเพื่อนฝูง

วันเสาร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2557

การนับเลขในภาษาฝรั่งเศส

 0   Zéro อ่านว่า ซี โคร
  
    1   Un อ่านว่า เอิง

    2   Duex อ่านว่า เดอซ์

    3   Trois อ่านว่า ทรัวซ์

    4   Quatre อ่านว่า กาท เทรอะ

    5   Cinq อ่านว่า แซง

    6   Six อ่านว่า ซิซ

    7   Sept อ่านว่า เซท (เทอะ)

    8   Huit อ่านว่า วิทท์

    9   Neuf อ่านว่า เนิฟ

    10 Dix อ่านว่า ดิซ


มานับเลขต่อ จาก 11-100 (ถูกผิดอย่างไร..ขอช่วยกันแก้ไขละกัน เพราะขนาดภาษาไทย ยังนับไปงงไป Grin )
11 onze องซ์
12 douze ดูซ
13 treize แทรซ์
14 quatorze กาตอรซ์
15 quinze แกงซ์
16 seize แซซ
17 dix-sept ดีเซท
18 dix-huit ดีวิท
19 dix-neuf ดีเนิฟ
20 vingt แวง


21 vingt et un แวงเตเอิง 
22 vingt-deux แวงเดอ 
23 vingt-trois แวงทรัว 
24 vingt-quatre แวงกัทเทรอะ
25 vingt-cinq แวงแซงค์
26 vinght-six แวงค์ซิซ
27 vinght-sept แวงค์เซทเตอะ 
28 vinght-huit แวงค์วิทเตอะ
29 vinght-neuf แวงค์เนิฟ
30 trente ทรองเตอะ

31 trente et un ทรองเตอะเตเอิง
32 trente-deux ทรองเตอะเดอ
33 trente-trois ทรองเตอะทรัว
34 trente-quatre ทรองเตอะกัทเทรอะ
35 trente-cinq ทรองเตอะแซงค์
36 trente-six ทรองเตอะซิซ
37 trente-sept ทรองเตอะเซทเตอะ
38 trente-huit ทรองเตอะวิทเตอะ
39 trente-neuf ทรองเตอะเนิฟ
40 quarante การองเตอะ


41 quarante et un การองเตอะเตเอิง 
42 quarante-deux การองเตอะเดอ 
43 quarante-trois การองเตอะทรัว 
44 quarante-quatre การองเตอะกัทเทรอะ
45 quarante-cinq การองเตอะแซงค์
46 quarante-six การองเตอะซิซ
47 quarante-sept การองเตอะเซทเตอะ 
48 quarante-huit การองเตอะวิทเตอะ
49 quarante-neuf การองเตอะเนิฟ
50 cinquante แซงกอง 

51 cinquante et un แซงกองเตเอิง
52 cinquante-deux แซงกองเดอ
53 cinquante-trois แซงกองทรัว
54 cinquante-quatre แซงกองกัทเทรอะ
55 cinquante-cinq แซงกองแซงค์
56 cinquante-six แซงกองซิซ
57 cinquante-sept แซงกองเซทเตอะ
58 cinquante-huit แซงกองวิทเตอะ
59 cinquante-neuf แซงกองเนิฟ
60 soixante ซัวซอง 


61 soixante et un ซัวซองเตเอิง 
62 soixante-deux ซัวซองเดอ 
63 soixante-trois ซัวซองทรัว 
64 soixante-quatre ซัวซองกรัทเทรอะ
65 vingt-cinq ซัวซองแซงค์
66 soixante-six ซัวซองซิซ
67 soixante-sept ซัวซองเซทเตอะ 
68 vinght-huit ซัวซองวิทเตอะ
69 soixante-neuf ซัวซองเนิฟ
70 soixante-dix ซัวซองดิซ

71 soixante et onze ซัวซององซ
72 soixante-douze ซัวซองดูซ
73 soixante-treize ซัวซองแทซ
74 soixante-quatorze ซัวซองกาตอรซ์
75 soixante-quinze ซัวซองแกงซ์
76 soixante-seize ซัวซองแซซ
77 soixante-dix-sept ซัวซองดีสแซ็ต
78 soixante-dix-huit ซัวซองดีสวิท
79 soixante-dix-neuf ซัวซองดีสเนิฟ
80 quatre-vingts กัทเทรอะแวง 


81 quatre-vingt-un กัทเทรอะแวงเอิง 
82 quatre-vingt-deux กัทเทรอะแวงเดอ
83 quatre-vingt-trois กัทเทรอะแวงทรัว
84 quatre-vingt-quatre กัทเทรอะแวงกรัทเทอร์
85 quatre-vingt-cinq กัทเทรอะแวงแซงค์
86 quatre-vingt-six กัทเทรอะแวงซิซ
87 quatre-vingt-sept กัทเทรอะแวงแซ็ต
88 quatre-vingt-huit กัทเทรอะแวงวิท
89 quatre-vingt-neuf กัทเทรอะแวงเนิฟ
90 quatre-vingt-dix กัทเทรอะแวงดิซ

91 quatre-vingt-onze กัทเทรอะแวงองซ
92 quatre-vingt-douze กัทเทรอะแวงดูซ
93 quatre-vingt-treize กัทเทรอะแวงแทซ
94 quatre-vingt-quatorze กัทเทรอะแวงกาตอรซ์
95 quatre-vingt-quinze กัทเทรอะแวงแกงซ์
96 quatre-vingt-seize กัทเทรอะแวงแซซ
97 quatre-vingt-dix-sept กัทเทรอะแวงดีสแซ็ต
98 quatre-vingt-dix-huit กัทเทรอะแวงดีสวิท
99 quatre-vingt-dix-neuf กัทเทรอะแวงดีสเนิฟ
100 cent ซ็อง 
...อย่าเผลออ่านเซ็งล่ะ Grin

100 = cent (ซ็อง) หนึ่งร้อย 
1000 = mille (มิลย์) หนึ่งพัน 
10000=dix mille (ดิก-มิลย์) หนึ่งหมื่น 
100000=cent mille (ซ็อง-มิลย์) หนึ่งแสน 
1000000 = million (มิลลิอง) หนึ่งล้าน 
10,000,000 = dix millions (ดิก-มิลลิอง) สิบล้าน 
100,000,000= cent millions (ช็อง-มิลลิอง) ร้อยล้าน 
1,000,000,000= un milliard (เอิง-มิลลิอา-ทคึ) พันล้าน 
1,000,000,000,000= un trillion (เอิง-ติล-ริองล้านล้าน   

วันอังคารที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2557

ที่มาเมืองน้ำหอม

ที่มาและประวัติของชื่อ คำว่า ฝรั่งเศส (France) มาจากภาษาละติน Francia ซึ่งแปลตามตรงว่า ดินแดนแห่งแฟรงค์ (Frankland) และมีหลายทฤษฎีที่สันนิษฐานถึงที่มาของคำว่า แฟรงค์ (Franks) ซึ่งหนึ่งในนั้นคือคำในภาษาโปรโต-เยอรมัน Frankon ซึ่งแปลว่า หลาว หอก หรือทวนซึ่งเป็นอาวุธของพวกแฟรงค์ เป็นที่รู้จักกันในชื่อ ฟรานซิสกา (Francisca) อีกทฤษฎีหนึ่งตามหลักนิรุกติศาสตร์คือในภาษาเยอรมันโบราณ คำว่า แฟรงค์ แปลว่า อิสระ ซึ่งตรงกันข้ามกับความเป็นทาส โดยคำดังกล่าวยังคงปรากฏในภาษาฝรั่งเศสปัจจุบันในรูป ฟรังก์ (Franc) ซึ่งเป็นสกุลเงินของประเทศฝรั่งเศสจนกระทั่งเปลี่ยนเป็นสกุลเงินยูโรในปี พ.ศ. 2545 ในปัจจุบันประเทศเยอรมนียังเรียกประเทศฝรั่งเศสว่า Frankreich ซึ่งแปลว่า อาณาจักรแห่งแฟรงค์ อีกด้วย เมืองหลวง กรุงปารีส ที่ตั้ง ประเทศฝรั่งเศสตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของทวีปยุโรป ทิศเหนือติดกับช่องแคบอังกฤษ ประเทศเบลเยียม และลักเซมเบิร์ก ทิศตะวันออกติดกับเยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ และอิตาลี ทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก และทิศใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน อันดอร์ราและสเปน ภูมิอากาศ โดยทั่วไปฤดูหนาวอากาศเย็น และฤดูร้อนอากาศอบอุ่น ส่วนภูมิภาคเมดิเตอร์เรเนียน ฤดูหนาวอากาศไม่เย็นจัด และฤดูร้อนอากาศร้อน สามารถมีลม Mistral พัดผ่านจากทิศเหนือไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือได้เป็นครั้งคราว พื้นที่ 211,152 ตารางไมล์ หรือ 657,417 ตารางกิโลเมตร (รวมดินแดนโพ้นทะเล) ประชากร 63.7 ล้านคน (มกราคม 2549) ภาษาราชการ ฝรั่งเศส (มีภาษา Dialects เช่น Breton, Provençal, Alsatian, Corsican เป็นต้น) ศาสนา คริสต์ (90% โรมันคาธอลิค) นอกจากนั้นโปรเตสแตนท์ (2%) ยิว (1%) มุสลิม (5-10%) ไม่นับถือศาสนา 4% วัฒนธรรม ชาวฝรั่งเศสมีวัฒนธรรมการนอนกลางวัน จึงส่งผลให้ประเทศอาณานิคมของฝรั่งเศสชอบนอนกลางวันตามไปด้วย อย่างไรก็ตามในส่วนลึกของวัฒนธรรม คล้ายคลึงกับของอังกฤษและอิตาลีอยู่แล้ว ไม่สามารถแบ่งได้ชัดเจนเด่นชัด เช่น การจับมือ ภาษา เป็นต้น สกุลเงิน ยูโร (Euro) 1 ยูโร วันชาติ 14 กรกฎาคม ระบบการเมือง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ประกอบด้วยสภาแห่งชาติและวุฒิสภา ระบบการปกครอง สาธารณรัฐ แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 22 มณฑล (Région) ซึ่งแบ่งย่อยออกเป็น 96 จังหวัด (Département) จังหวัด-มณฑลโพ้นทะเล (Départements et région d’outre-mer – DOM-ROM) 4 แห่ง ได้แก่Guadeloupe, Martinique, Guyane or French Guiana, Réunion ชุมชนโพ้นทะเล (Collectivités d’outre-mer – COM) ซึ่งเป็นดินแดนที่มีสถานะแตกต่างกัน 6 แห่ง ได้แก่ Polynésie Française (มีสถานะเป็นประเทศโพ้นทะเล หรือ pays d’outre-mer),Saint-Pierre-et-Miquelon, Wallis-et-Futuna, Mayotte (มีสถานะเป็นชุมชนระดับจังหวัดโพ้นทะเล หรือ collectivité départementale d’outre-mer), Saint-Martin, Saint-Barthélemy นอกจากนี้ มีดินแดนที่มีสถานะพิเศษ ได้แก่ Nouvelle Calédonie (มีสถานะเป็นชุมชน) และดินแดนในแถบขั้วโลกใต้ ได้แก่ Kerguelen, Crozet, Saint-Paul-et-Amsterdam, หมู่เกาะ Eparses และ Terre Adélie ซึ่งเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของทวีปแอนตาร์กติก นอกจากนี้ ฝรั่งเศสยังมีกรรมสิทธิ์เหนือเกาะ Clipperton ในมหาสมุทรแปซิฟิกด้วย การท่องเที่ยว ประเทศฝรั่งเศสนับเป็นประเทศที่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมากที่สุดในโลก มีจำนวนถึง 81.9 ล้านคนในปี พ.ศ. 2550 แซงหน้าประเทศสเปน (58.5 ล้านคนในปี พ.ศ. 2549) และสหรัฐอเมริกา (51.1 ล้านคนในปี พ.ศ. 2549) จำนวน 81.9 ล้านคนนี้ ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศสน้อยกว่า 24 ชั่วโมง เช่น ชาวยุโรปทางตอนเหนือที่เดินทางผ่านประเทศฝรั่งเศสเพื่อไปประเทศสเปนหรืออิตาลีในฤดูร้อน ประเทศฝรั่งเศสมีสถานที่ท่องเที่ยวในทุกๆ บรรยากาศไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมหรือธรรมชาติ ที่ประกอบไปด้วยทะเล หาดทราย ป่า แม่น้ำ ภูเขา บ้านพักตากอากาศ ฯลฯ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดมีดังนี้[3] หอไอเฟล (6.2 ล้าน) , พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (5.7 ล้าน) , พระราชวังแวร์ซายส์ (2.8 ล้าน) , พิพิธภัณฑ์ออร์เซ (2.1 ล้าน) , ประตูชัยฝรั่งเศส (1.2 ล้าน) , ซองตร์ ปอมปิดู (1.2 ล้าน) , มงต์-แซงต์-มิแชล (1 ล้าน) , ชาโต เดอ ชองบอร์ด (711,000) , แซงต์-ชาแปลล์ (683,000) , ชาโต ดู โอต์-โคนิคบูร์ก (549,000) , ปุย เดอ โดม (5 แสน) , พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (441,000) และการ์กาสซอนน์ (362,000) ประเทศฝรั่งเศสมีโรงแรมกว่า 18,217 แห่ง สถานที่ตั้งแคมป์ 8,289 แห่ง หมู่บ้านตากอากาศ 1001 แห่ง บ้านพักเยาวชน 188 แห่ง ที่พักราคาย่อมเยาในต่างจังหวัด 63,158 แห่ง ห้องพักพร้อมอาหารเช้าตามบ้านคนท้องถิ่น 31,013 ห้อง โดยประเทศฝรั่งเศสมีรายได้จากการท่องเที่ยว 32.8 พันล้านยูโร นับเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและอิตาลี และมีดุลการท่องเที่ยวเกินดุลกว่า 9.8 พันล้านยูโร

วันอาทิตย์ที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2557

การท่องเที่ยว

การท่องเที่ยว



ประเทศฝรั่งเศสมีโรงแรมกว่า 18,217 แห่ง สถานที่ตั้งแคมป์ 8,289 แห่ง หมู่บ้านตากอากาศ 1001 แห่ง บ้านพักเยาวชน 188 แห่ง ที่พักราคาย่อมเยาในต่างจังหวัด 63,158 แห่ง ห้องพักพร้อมอาหารเช้าตามบ้านคนท้องถิ่น 31,013 ห้อง โดยประเทศฝรั่งเศสมีรายได้จากการท่องเที่ยว 32.8 พันล้าน
ยูโร นับเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาและอิตาลี และมีดุลการท่องเที่ยวเกินดุลกว่า 9.8 พันล้านยูโรจำนวน 81.9 ล้านคนนี้ ไม่รวมนักท่องเที่ยวที่อาศัยในประเทศฝรั่งเศสน้อยกว่า 24 ชั่วโมง เช่น ชาวยุโรปทางตอนเหนือที่เดินทางผ่านประเทศฝรั่งเศสเพื่อไปประเทศสเปนหรืออิตาลีในฤดูร้อน ประเทศฝรั่งเศสมีสถานที่ท่องเที่ยวในทุก ๆ บรรยากาศไม่ว่าจะเป็น สถานที่ท่องเที่ยวทางด้านวัฒนธรรมหรือธรรมชาติ ที่ประกอบไปด้วยทะเล หาดทราย ป่า แม่น้ำ ภูเขา บ้านพักตากอากาศ ฯลฯ สถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดมีดังนี้[3] หอไอเฟล (6.2 ล้าน), พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (5.7 ล้าน) , พระราชวังแวร์ซายส์ (2.8 ล้าน) ,พิพิธภัณฑ์ออร์เซ (2.1 ล้าน) , ประตูชัยฝรั่งเศส (1.2 ล้าน) , ซองตร์ ปอมปิดู (1.2 ล้าน) , มง-แซ็ง-มีแชล (1 ล้าน) , พระราชวังช็องบอร์ (711,000) , วิหารแซ็งต์-ชาแปล (683,000) , ชาโต ดู โอต์-โคนิคบูร์ก (549,000) , ปุย เดอ โดม (5 แสน) , พิพิธภัณฑ์ปิกัสโซ (441,000) และการ์กาซอน (362,000)

วันเสาร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2557

La Seine

La Seine



La Seine (prononcé [ˈsɛn]) est un fleuve français, long de 777 kilomètres, qui coule dans le Bassin parisien et arrose TroyesParisRouen et Le Havre. Sa source se situe à 446 mètres d'altitude2 à Source-Seine, en Côte-d'Or sur leplateau de Langres. Son cours a une orientation générale du sud-est au nord-ouest. Elle se jette dans la Manche entre Le Havre et Honfleur. Son bassin versant, d'une superficie de 79 000 km, intéresse près de 30 % de la population du pays. Sa source était un lieu sacré pour les gaulois, pour qui elle était le royaume de la déesse Sequana, qui a donné son nom au fleuve eu Ier et IIe siècle de notre ère


วันศุกร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557

Charles X of France


File:Charles X of France 1.PNG

Charles X (château de Versailles, 9 octobre 1757 – Görz, Empire d'Autriche,6 novembre 1836), surtout connu sous le titre de comte d'Artois (1757-1824), futroi de France et de Navarre de 1824 à 1830.
Succédant à ses deux frères, Louis XVI et Louis XVIII, il est le roi de France le plus âgé, à son avènement (66 ans) comme à son décès (79 ans). Il était très attaché aux conceptions et aux valeurs de l'Ancien Régime qu'il tenta de faire revivre, après le passage révolutionnaire, tout en acceptant en majorité les valeurs de son temps.
Sacré en 1825, il est renversé en 1830 par une nouvelle révolution qui l'oblige à s'exiler. Il abdique en faveur de son petit-fils le duc de Bordeaux, sous la régencede son cousin le duc d'Orléans, fils du régicide Philippe Égalité. Orléans profite de la situation pour évincer le duc de Bordeaux et se faire reconnaître « roi des Français » en dix jours à peine.

วันพฤหัสบดีที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2557

La Marseillaise

La Marseillaise est le chant patriotique de la Révolution française, adopté par la France comme hymne national : une première fois par la Convention pendant neuf ans du 14 juillet 1795 jusqu'à l'Empire en 1804, puis définitivement en 1879 sous la Troisième République.
Les six premiers couplets sont écrits par Rouget de Lisle en 1792 pour l'Armée du Rhin à Strasbourg, à la suite de la déclaration de guerre de la France à l'Autriche. Dans ce contexte originel, La Marseillaise est un chant de guerre révolutionnaire, un hymne à la liberté, un appel patriotique à la mobilisation générale et une exhortation au combat contre la tyrannie et l'invasion étrangère.
La Marseillaise est décrétée chant national le 14 juillet 1795 (26 messidor an III) par la Convention, à l'initiative du Comité de Salut public. Abandonnée en 1804 sous l’Empire et remplacée par le Chant du départ, elle est reprise en 1830 pendant la révolution des Trois Glorieuses qui porte Louis-Philippe Ier au pouvoir.Berlioz en élabore une orchestration qu’il dédie à Rouget de Lisle.
La IIIe République en fait l'hymne national le 14 février 1879 et, en 1887, une « version officielle » est adoptée en prévision de la célébration du Centenaire de la Révolution. Le 14 juillet 1915, les cendres de Rouget de Lisle sont transférées aux Invalides.
Pendant la période du régime de Vichy, bien qu'elle soit toujours l'hymne national, elle est souvent accompagnée par le chant « Maréchal, nous voilà ! ». En zone occupée, le commandement militaire allemand interdit de la jouer et de la chanter à partir du 17 juillet 1941.
Son caractère d’hymne national est à nouveau affirmé dans l’article 2 de laConstitution du 27 octobre 1946 par la IVe République, et en 1958 — par l’article 2 de la Constitution de la Cinquième République française.
Valéry Giscard d'Estaing, sous son mandat de président de la République française, fait diminuer le tempo de La Marseillaise afin de retrouver le rythme original.